ปัจจัยของแสงกับ Encephalartos arenarius blue

                                                       ปริมาณแสงที่ Encephalartos arenarius และ Encephalartos arenarius blue ควรได้รับ

          ปรงชนิดนี้อยู่ในกลุ่ม Alexandria cycad group “arenarius Latin = relating to sand” หมายถึงชนิดปรง ที่ชอบขึ้นบนพื้นที่ ที่เป็นทราย E.arenarius มีแหล่งกำเนิดที่ Eastern Cape -South Africa  ส่วนใหญ่พบว่าขึ้นอยู่หางจากชายฝั่ง สองถึงสามร้อยเมตร บนเนินทราย ตามชายฝั่งขึ้นปะปนกับป่าไม้เตี้ย  สภาพอากาศที่เบาบาง ปริมาณฝน 725-875 มิลลิเมตรต่อปี  

          การกระจายพันธุ์ของปรงชนิดนี้ตามธรรมชาติ  มีการทับซ้อนพื้นทีกันกับปรงชนิดอื่น E.altensteinii และ E.horridus สองสายพันธุ์นี้อาจทำให้เกิด Encephalartos arenarius blue ซึ่งเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ของปรงสองชนิดนี้โดยธรรมชาติ และได้ขยายเผ่าพันธุ์เรื่อยมา หนึ่งในพื้นที่ ที่พบได้แก่ Paterson  

         แสงถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญปัจจัยหนึ่ง ส่งผลกระทบต่อความสวยงามและการเจริญเติบโตของปรง เมืองไทยเป็นเมืองร้อนและชื้น สภาพภูมิอากาศจึงแตกต่างจากประเทศต้นกำเนิดของปรงชนิดนี้ ถ้าพูดถึงแสงและความเข้มของแสงแล้ว รวมทั้งความร้อนที่เกิดจากแสง จะพบว่าส่งผลกระทบต่อปรงชนิดนี้อยู่มาก ฤดูร้อนในไทย ทำให้ปรงชนิดนี้ ขาดความสวยงามและเสียหาย เช่นใบไหม้ ใบเหลือง ดังนั้นการปรับสภาพแสงให้เมาะสมกับปรงชนิดนี้ ถือว่าสำคัญ                                                                                                                                                                                                                                                       - แสงที่เหมาะสมกับปรงชนิดนี้คือ การได้รับแสงแดดโดยตรงในบางช่วงของวัน ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเช้าหรือบ่าย ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ของผู้เลี้ยงแต่ละท่าน  เพราะในธรรมชาตินั้นปรงชนิดนี้ ขึ้นปนอยู่กับไม้พุ่มเตี้ย พุ่มไม้เหล่านี้จะทำหน้าที่พรางแสงหรือบังแสงบางส่วนให้ ในบางช่วงเวลา  

     -การปรับสภาพแสงให้กับ E.arenarius blue  หากปรงต้นดังกล่าวเคยอยู่ภายใต้ที่พรางแสงมาก่อน หรือ ภายใต้สภาพแสงน้อย ควรเริ่มขยับตำแหน่งที่ตั้ง ให้ได้รับแสงโดยตรง ในบางช่วงของวันเป็นระยะเวลาสั้นก่อน และ รอให้แตกใบใหม่ จึงค่อยขยับที่ตั้ง ให้ได้รับรับแสงเพิ่มมากขึ้นและนานขึ้น ใบใหม่ที่เกิดขึ้นปรับสภาพตัวเองให้ทนกับแสงที่เพิ่มขึ้นได้  หากเรานำปรงออกรับแสงแดดโดยตรงโดยไม่มีการปรับสภาพแสง ใบปรงจะเหลืองหรือไหม้ เหตุจากใบปรงที่อยู่เคยอยู่ในสภาพแสงน้อย แผ่นใบจะบาง ใหญ่ และ กว้าง ยังไม่มีการปรับโครงสร้างของใบเพื่อให้ทนต่อสภาพแสงใหม่

          ระยะเวลาการที่จะให้ปรงชนิดนี้ได้รับแสงโดยตรงนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้

1.      ขนาดของปรง  ปรงที่มีขนาดเล็ก ควรจะให้ได้รับแสงแดดโดยตรง ในระยะเวลาที่สั้น มากกว่า ปรงที่มีขนาดใหญ่

2.      ฤดูกาล ความเข้มของแสงของฤดูกาลต่างกัน ปรงขนาดเล็ก อาจจะทนอยู่กับแสงแดดในบางฤดู นานไม่เท่ากัน ส่วนปรงที่มีขนาดใหญ่จะไม่ค่อยพบว่ามีปัญหา

3.      ความสมบูรณ์แข็งแรงของปรงแต่ละต้น ปรงที่อ่อนแอ หรือปรงที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ควรปรับสภาพและดูแลให้ปรงนั้นมีความแข็งแรงเสียก่อน แล้วค่อยนำออกไปตั้งเพื่อรับแสงแดดโดยตรง แต่เริ่มจากระยะเวลาช่วงสั้นๆก่อน

      (ความหมาย ของคำว่าการได้รับแสงในบางช่วงของวันนั้นคือ ตำแหน่งที่ตั้งของปรง ณ.มุมใดมุมหนึ่งของบ้าน ณ.ตำแหน่งที่ปรงนั้นจะได้รับแสงแดดโดยตรง โดยที่ไม่มีสิ่งใดมาปิดบังหรือพรางแสง  เพียงปรงนั้นจะได้รับแสงโดยตรง ในช่วงระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่ง ของวันเท่านั้น )           

        หมายเหตุ สำหรับผู้ที่มีความพร้อมในเรื่องสถานที่ และ โรงเรือน การนำปรงชนิดนี้ ทุกฟอร์มใบ เขียวหรือฟ้า ไปตั้งไว้ใต้ที่พรางแสง 50% และได้รับแสงสม่ำเสมอเต็มวัน จะเสริมให้ปรงชนิดนี้ มีรูปทรงใบกระชับและสวยงามขึ้น ส่วนสีใบ สำหรับ E.arenarius blue สีสันของใบจะชัดเจน และ ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนที่จะส่งผลกระทบต่อปรงในช่วงฤดูร้อน